การเลี้ยงสุนัขเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ สอนให้เข้าใจคำสั่งต่าง ๆ ได้ง่าย มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ และใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่มากนัก

ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นมือใหม่อยากเลี้ยงสุนัข ควรจะทราบว่าต้องเตรียมอุปกรณ์ใดไว้บ้าง เพื่อให้สุนัขสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข เราจึงได้นำข้อมูลมาฝากกัน ดังนี้

1. ฟูกที่นอนสำหรับสุนัข

โดยทั่วไปต้องเลือกตามขนาดของสุนัข และควรมีความนุ่มพอเหมาะ ซักทำความสะอาดง่าย และควรหาพื้นที่วางไว้ใกล้กับโซฟาที่เจ้าของใช้บ่อย ๆ ได้ เพื่อเสริมสร้างความใกล้ชิด และทำให้สุนัขไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

โดยสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิสุ ชิวาวา พุดเดิ้ล มักจะชอบนอนขดตัวอยู่ในที่นอนนุ่ม ๆ มากกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ แบบไซบีเรียนฮัสกี้ ที่มีอุปนิสัยร่าเริงชอบเคลื่อนไหว การเลือกที่นอนจึงต้องศึกษาอุปนิสัยเฉพาะสายพันธุ์ร่วมด้วย

2. ชามข้าวและถ้วยใส่น้ำ

ควรเลือกที่ทำจากวัสดุเกรดอาหาร เพราะสุนัขอาจกัดแทะชามเล่นได้ บางรุ่นทำจากสแตนเลสหรือเซรามิก แม้มีราคาสูงกว่าพลาสติก แต่ก็มีข้อดีที่สำคัญ คือ ไร้ปัญหาสารเคมีตกค้างและทำความสะอาดได้ง่าย จึงทำให้สุนัขมีสุขอนามัยที่ดี

นอกจากนี้ อาจเลือกแบบที่มีการติดยางที่ส่วนฐานภาชนะ เพื่อให้เวลาที่สุนัขเลียชามไม่มีการเคลื่อนหรือพลิกคว่ำให้เลอะเทอะได้

3. กรงสำหรับสุนัข

ควรเลือกขนาดให้เหมาะสม โดยทั่วไปสุนัขจะเข้าไปอยู่ในกรงเฉพาะเวลานอน จึงไม่ต้องเผื่อให้ขนาดใหญ่สำหรับการขับถ่าย (การขับถ่ายควรแยกไปอยู่นอกบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรค) และที่สำคัญ ควรติดตาข่ายที่ป้องกันแมลง โดยเฉพาะยุง แมลงวัน ซึ่งเป็นพาหะนำโรค และวางกรงบริเวณที่ไม่อับชื้น จะทำให้สุนัขไม่ป่วยเป็นโรคในระบบทางเดินหายใจด้วย

4. ปลอกคอและสายจูง

ปลอกคอสุนัขเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพื่อที่จะแสดงว่าเป็นสุนัขมีเจ้าของและได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งเราสามารถที่จะใส่ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ไว้ด้วยได้ เผื่อเกิดการพลัดหลง จะได้มีผู้ติดต่อกลับมาส่งได้ง่าย

นอกจากนี้ การมีสายจูงสำหรับพาเดินออกกำลังกายหรือวิ่งเล่นในสถานที่สาธารณะ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขไปกัดหรือทำร้ายคนอื่น เวลามีอาการตื่นตกใจได้

5. ตุ๊กตาของเล่นสำหรับลูกสุนัข

ลูกสุนัขจะมีพฤติกรรมชอบเคี้ยว กัดแทะสิ่งต่าง ๆ รอบตัว จึงควรมีของเล่นที่หลากหลายเช่น ลูกบอล ตุ๊กตาที่ทำจากยาง กระดูกปลอม ฯลฯ ที่ผลิตจากวัสดุเกรดอาหาร มีความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ สุนัขที่กำลังฟันขึ้น จะมีอาการคันเหงือก การมีของเล่นให้แทะ จะป้องกันไม่ให้สุนัขมากัดโซฟาหรือขาโต๊ะเก้าอี้ได้ด้วย

จะเห็นได้ว่า ของที่จำเป็นต้องใช้ในการเลี้ยงสุนัขมีอยู่หลายอย่าง หากต้องการให้สุนัขมีคุณภาพชีวิตที่ดี อารมณ์แจ่มใส ซึ่งส่งผลให้ไม่เจ็บป่วยบ่อย ก็ต้องเตรียมสิ่งของเหล่านี้ไว้ให้ครบ และใส่ใจการพาสุนัขไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำด้วย

เราทุกคน ต่างเคยเดินตลาดนัดหรือสถานที่ที่รวมสัตว์นานาชนิดทั้ง สุนัข แมว นก หนู สัตว์แปลก รวมไปถึง “กระต่าย” ถ้าเราอยากเลี้ยงกระต่ายซักตัวหนึ่งและอยากให้เขาอยู่กับเรานานๆเราต้องศึกษาอะไรบ้างเพราะกระต่ายส่วนใหญ่ที่ขายตามตลาดนัด ส่วนน้อยนักที่จะมีชีวิตรอดจนโตเต็มวัย

ประสบการณ์ตรงจากเรื่องจริงที่เคยเจอ เรามักจะเจอกระต่ายขายตามตลาดต่างๆ ใส่กรงซ้อนๆกัน เจ้ากระต่ายตัวน้อยใส่ชุดน่ารักนอนอยู่ในกรง ใช่ครับไม่ว่าสัตว์ประเภทไหนตอนเด็กๆก็น่ารักไปซะหมด เจ้ากระต่ายน้อยก็เช่นกันน่ารักจนผู้คนที่ได้เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันสนใจในความน่ารักและราคาถูก ความน่ารักของมันดึงดูดให้มนุษย์อย่างเราหลงรักและยอมควักเงินจ่ายเพื่อแลกกับความน่ารักของมัน โดยที่เราไม่ได้เรียนรู้เลยว่าวิธีการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องคืออะไร? บางคนซื้อมาได้ 1-2 วัน กระต่ายน้อยก็ตายจากไปโดยที่ไม่รู้สาเหตุ นั่งร้องไห้เป็นวันๆเสียใจและเสียความรู้สึก คิดว่าร้านเอากระต่ายป่วยมาขายบ้างล่ะ กระต่ายไม่แข็งแรงบ้างล่ะ โทษตัวเองบ้างล่ะ โดยที่เราไม่รู้เลยว่าการเลี้ยงกระต่ายเด็กต้องทำยังไง เรารับความรู้ผิดๆมาจากคนขาย ซื้อกระต่ายแล้ว ให้กินอาหารเม็ด ให้กินอะไรหลายๆอย่างทั้งๆที่ยังไม่ถึงวัยของมัน บางครั้งยังดูเพศผิดซะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเรามาศึกษากันครับเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เขาจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ถ้าเราจะเลือกซื้อกระต่ายสักตัวหนึ่งเรามักจะเลือกตัวที่เราชอบมากที่สุด กระต่ายเด็กบางตัวยังไม่ถึงวัยที่จะเอามาขายด้วยซ้ำ บางตัวก็ยังไม่หย่านม เราผู้ซื้อไม่สามารถทราบแน่ชัดได้หรอกว่าอายุจริงๆของเขาคือกี่เดือน แต่สิ่งที่เราจะรักษาเขาให้อยู่กับเราได้นานๆ คือความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดู กระต่ายคือสัตว์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ระบบช่องท้อง แค่ท้องอืดมันก็สามารถตายได้ อย่างแรกเลยที่ต้องระวังคือการกินครับ อาหารหลักของกระต่ายคือ “หญ้าแห้ง” ในวัยเด็กนั้นควรให้เขากินแต่หญ้าเท่านั้น หญ้าที่ให้โปรตีนสูง เช่น อัลฟาฟ่า เหมาะสำหรับกระต่ายช่วงวัยเด็กถึง 6-7 เดือน พอเขาโตขึ้น ก็สามารถให้อาหารเม็ดกับเขาได้ในปริมาณที่พอดี 1 มื้อต่อ 1 วัน อาหารเม็ดถ้าให้เยอะจะทำให้เขาอ้วนจนเกินไปนะครับ และเริ่มเปลี่ยนมาให้เขากินหญ้าแห้งที่สารอาหารเหมาะสม เช่น ทิโมธี แพงโกล่า เป็นต้น ผัก ผลไม้ ก็สามารถกินได้บางอย่างนะครับ ที่อยากแนะนำที่สุดเลยคือควรให้กระต่ายกินใบกระเพรา หรือ ใบโหรพา 4-5 ใบ ต่อสัปดาห์ยิ่งดี เพราะมันสามารถแก้ท้องอืดให้เจ้ากระต่ายได้ดีเลยล่ะ หมั่นสังเกต อึ ฉี่ ของเขาบ้าง เพราะมันจะสามารถบอกถึงระบบภายในของเขาได้ว่าแข็งแรงปกติ ส่วนตัวถือว่าตัวเองโชคดีมาก ที่ซื้อกระต่ายจากตลาดและเรียนรู้วิธีเลี้ยงได้ทัน ผิดพลาดแค่คนขายบอกว่าน้องเป็นผู้ชาย เลี้ยงมาจนโต เหนียงเริ่มออกพาไปตรวจสุขภาพคุณหมอบอกว่าน้องเป็นผู้หญิง ฮ่าๆ

สุดท้ายอยากฝากถึงคนที่คิดจะเลี้ยง ไม่ว่าเขาจะเป็นสัตว์ชนิดไหน รักเขาให้เหมือนวันแรกที่เราเอาเขามาเลี้ยง สัตว์ทุกชนิดมีข้อเสีย กระต่ายเป็นสัตว์ที่กลิ่นอึกลิ่นฉี่รุนแรงมาก พลัดขนบ่อย แทะทุกอย่างที่ขวางหน้า คิดดีๆก่อนที่จะตัดสินใจรับเขามาเลี้ยงนะคับ ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ เขียนจากประสบการณ์เลี้ยงจริง