ก่อนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีข้อควรรู้อะไรบ้าง

ก่อนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีข้อควรรู้อะไรบ้าง

เชื่อว่าหลายคนมีความฝันเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่การลงมือลงแรงใช้ระยะเวลาปลุกปั้นจนกว่าจะได้กำไร เป็นเรื่องที่เสียเวลามาก ผู้ที่มีเงินอยู่แล้วต่างก็ลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์” แน่นอน เพราะใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถสร้างกำไรได้แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังของธุรกิจดังกล่าวเป็นเรื่องที่ควรรู้เช่นกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยดีกว่า

1.ทำเลที่ตั้ง

ปัจจัยกำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์เป็นอันดับแรกนั่นคือ “ที่ตั้ง” ยิ่งทำเลอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ราคาที่ดิน บ้านเดี่ยว หรือห้องพักคอนโดต่างปรับตัวสูงขึ้นในทุกปี แต่ก็ไม่ใช่อสังหาฯ ทุกประเภทที่ราคาจะปรับตัวอย่างก้าวกระโดด เพราะบางที่ทำเลไม่ดีนัก เช่น อยู่ติดโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็น โรงงานไฟไหม้ หรือเกิดการระเบิดขึ้น หรือที่ดินแปลงเปล่าลักษณะเป็นหนองน้ำ ราคาย่อมต่ำกว่าที่ดินทั่วไป เนื่องจากการก่อสร้างจำเป็นต้องถมดินจำนวนมาก และใช้เวลาปรับผิวดินค่อนข้างนาน

ที่ดินอีกประเภทที่ไม่ควรลงทุน คือ อยู่ในระหว่างการเวนคืนจากการลงทุนภาครัฐไม่ว่าจะเป็นทางด่วน หรือรถไฟฟ้า ซึ่งก่อนซื้อที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวควรติดตามข่าวสารในเบื้องต้นว่าถูกเวนคืนหรือไม่ และลักษณะของที่ดินอันเสี่ยงต่อการโดนเวนคืน มักอยู่ติดกับพื้นที่สำคัญ เช่น สถานีรถไฟฟ้า หรือติดถนนใหญ่ เป็นต้น

และทำเลอีกชนิด ที่ควรหลีกเลี่ยงลงทุนอย่างสูงคือ ที่ดินตาบอด ซึ่งมักเจอได้บ่อยในต่างจังหวัด โดยลักษณะของที่ดินเช่นนี้ จะไม่มีทางออกสู่ถนนสาธารณะ จำเป็นต้องขอทางผ่านจากเจ้าของที่ดินโดยรอบ ทำให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้ราคาที่ดินตาบอดจึงต่ำกว่าที่ดินอื่นๆ

2.อย่าลงทุนโดยไม่เห็นสถานที่จริง
ปัจจุบันมีการโฆษณาชวนลงทุนคอนโด หรือที่เรียกกันว่า “คอนโดปิดหนี้” โดยมิจฉาชีพอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 10% ต่อปี แล้วก็ปิดหนี้ที่เคยเป็นอยู่ได้หมด ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยหลงเชื่อ แห่กันไปกู้เงินจากธนาคารที่อัตราดอกเบี้ย 6 – 7% ต่อปี โดยคนกลุ่มนี้ไม่เคยเห็นสถานที่เลยว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร และสุดท้ายพบกับความจริงว่าเป็นเพียงแค่แชร์ลูกโซ่เท่านั้น เงินที่เคยจ่ายผ่อนคอนโดไป ก็เป็นเพียงคอนโดสภาพไม่น่าอยู่ ทำให้ไม่สามารถขายหรือปล่อยเช่าได้ และผู้หลงเชื่อเป็นหนี้ก้อนโตไปตามกัน

3.การปล่อยเช่าไม่ได้หมายถึงกำไรเสมอไป

หลายคนเข้าใจว่าการทำธุรกิจเสือนอนกินอย่างการปล่อยเช่าบ้าน หรือห้องพักจะสามารถสร้างกำไรได้ง่ายๆ แต่ต้นทุนของเจ้าของอสังหาฯ ก็มีไม่น้อย เช่น ค่าเช่าห้อง+ค่าน้ำค่าไฟ ก็อาจไม่สามารถเก็บเงินครบได้ในทุกเดือน และลูกบ้านบางคนชักดาบไม่จ่าย แถมทำลายข้าวของในบ้านเสียหายเมื่อเราไปทวงเงินค่าห้อง ซึ่งกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นจำนวนไม่น้อยกับผู้เช่าบ้านที่ไม่มีคุณภาพ จนส่งผลให้เราเสียค่ารีโนเวทแพงกว่ารายได้ที่รับในแต่ละเดือนเสียอีก

นอกจากนี้ก่อนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ควรศึกษากฎหมายและระเบียบต่างๆ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบจนเกินไป เพราะกฎหมายบางข้อ เช่น การครอบครองปรปักษ์ และการเสียภาษีที่ดินในกรณีที่ปล่อยรกร้าง เป็นการบังคับให้เจ้าของที่ดินหมั่นดูแล และพัฒนาพื้นที่ของตนอย่างสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นแล้วที่ดินอาจเสียกรรมสิทธิ์ และต้องจ่ายภาษีมากจนเกินไปในแต่ละปี