เหตุใดต้นไม้จึงงามยามรับฝน

เหตุใดต้นไม้จึงงามยามรับฝน

เราเคยสงสัยกันไหมว่าทำไมช่วงฤดูฝนต้นไม้จึงแตกหน่องดงาม เขียวขจี มีชีวิตชีวาทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็รดน้ำประปาไม่ได้ขาด มีความลับใดซ่อนอยู่ในน้ำฝน ลองไปดูกัน 

ธาตุอาหารที่เป็นหัวใจสำคัญหนึ่งที่ส่งเสริมการเติบโตของต้นไม้เป็นอย่างดี คือ ไนโตรเจน เป็นองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการสร้างโครงสร้าง ซ่อมแซม เร่งการเจริญเติบโตของพืช เป็นตัวการสำคัญในกระบวนการเมตาโบลิซึ่มที่เปลี่ยนแปลงธาตุอาหารให้อยู่ในรูปที่พืชใช้งานได้ อีกทั้งยังเป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโนจำเป็นในโปรตีนด้วย  ในบรรยากาศมีไนโตรเจนสูงแต่พืชไม่สามารถรับมาใช้โดยตรงได้ จะต้องผ่านกระบวนการทำปฏิกิริยาทางเคมีที่เปลี่ยนไนโตรเจนให้เป็น แอมโมเนียม และไนเตรท ซึ่งมีฝนเป็นตัวกลางสำคัญตามลำดับดังนี้ 

  1. พลังจากฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ทำให้เกิดพลังงานที่ส่งผลให้ไนโตรเจนกับออกซิเยนในอากาศทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นสารไนตริกออกไซด์ (NO) ซึ่งเป็นสารที่ทำละลายได้ดีในน้ำฝน โดยมีการประเมินว่า ฟ้าแลบหนึ่งครั้งจะทำให้ธาตุไนโตรเจนตกลงมายังพื้นดิน 2 กิโลกรัมต่อพื้นที่จำนวน 1 ไร่
  2. น้ำฝนทำให้เกิดการทำละลาย หลังจากนั้นเมื่อฝนตก น้ำฝนจะเป็นตัวทำละลายเปลี่ยนในตริกออกไซด์ (NO) แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็น ไนโตรเจนออกไซด์(NO2) จากนั้นเกิดการทำละลายโดยน้ำฝนเปลี่ยนเป็นกรดไนตริก หรือดินประสิว (HN03) ตกลงมายังพื้นดิน
  3. ได้แคลเซียมไนเตรท กรดไนตริก หรือดินประสิวที่ตกลงมาจะไปรวมตัวกับธาตุอาหารอื่นๆในดิน เช่น แคลเซียม ทำให้เกิดธาตุอาหารสำคัญ คือ แคลเซียมไนเตรท ซึ่งเป็นปุ๋ยชั้นดีของพืช ช่วยสร้างรากฝอย กระตุ้นการแทงหน่อ สร้างความแข็งแรงให้กับผนังเซลล์ของพืช ช่วยทำให้รูปทรงของผลสมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยว 
  4. น้ำฝนเป็นตัวนำสร้างธาตุอาหารชั้นดี  น้ำฝนที่ตกลงมานำพาคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศลงมาด้วย ทำให้มีค่าความเป็นกรดอ่อนๆ มีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ต่ำกว่า 6 ด้วยคุณสมบัตินี้จึงเป็นตัวทำละลายธาตุต่างๆ ในอากาศและในดินปรุงเป็นอาหารพืชอื่นๆได้เป็นอย่างดี 

ยังมีงานวิจัยจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พบว่า ในน้ำฝน 1 ลิตรจะมีธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม 0.8 มก. แมกนีเซียม 1.2 มก. โซเดียม 9.4 มก.ไบคาร์บอเนต 4 มก.ซัลเฟต 7.6 มก. คลดไรด์ 17 มก. ซิลิก้า 0.3 มก. เป็นต้น แต่ในน้ำประปาเป็นน้ำปรุงแต่งที่ส่งตรงผ่านท่อ (ไม่ได้ผ่านผิวดิน) สู่ต้นไม้โดยตรงไม่มีโอกาสนำพาธาตุอาหารในอากาศ และไม่มีค่าความเป็นกรดอ่อน ๆ ที่สามารถละลายธาตุต่าง ๆ ให้เป็นอาหารพืชได้เหมือนน้ำฝน พืชที่รับน้ำฝนเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ จึงเจริญเติบโตได้ดีกว่าชัดเจนเมื่อเทียบกับการรดด้วยน้ำประปา

เมื่อได้รู้จัก และทำความเข้าใจที่มาที่ไปของน้ำฝนแล้ว จะพบว่าน้ำฝนไม่ได้มีประโยชน์เพียงการเติมความชุ่มชื้นให้พืช และช่วยประหยัดน้ำประปาเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกลางช่วยสร้างอาหารธรรมชาติให้พืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการได้รับน้ำฝนเกินปริมาณและทำให้พืชอยู่ในความชื้นในระยะเวลานานเกินไปก็สามารถทำร้ายพืชในบางชนิดได้ด้วยเช่นกัน  

7 ประโยชน์ของไส้เดือนดินในวงการเกษตร

ประโยชน์ของไส้เดือนดินในวงการเกษตร

ไส้เดือนเป็นสัตว์มหัศจรรย์ตามธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในดิน เป็นเสมือนเครื่องมือไถพรวนอัตโนมัติ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆก็เหมือนกับคอบอล หากอยากจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟุตบอลก็ต้องศึกษาตามเว็บ เช่นเว็บ ตารางบอลวันนี้ ก็มีข้อมูลครบถ้วนให้คอบอลติดตามและหาความรู้ ซึ่งประโยชน์ของไส้เดือนก็เช่นกัน เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ และความสะอาดของดิน มีประโยชน์มากมายต่อวงการเกษตรทั้งในแง่กำจัดศัตรู และเป็นตัวช่วยในการเจริญเติบโตของพืช ในงานวิจัยพบว่าในดินที่มีไส้เดือนอาศัยอยู่สามารถสร้างผลผลิตได้มากกว่าดินที่ไม่มีไส้เดือนได้ถึง 300 เปอร์เซ็นต์ เราจะพาไปทำความรู้จักกับไส้เดือนให้มากขึ้นด้วย 7 ประโยชน์ของไส้เดือน ดังนี้

ช่วยพรวน พลิกกลับหน้าดิน เพิ่มช่องว่างในการระบายน้ำและอากาศในดินไส้เดือนเคลื่อนตัวขึ้นลง แหวกดินให้มีช่องอากาศ เกิดความพรุน ทลายความเป็นดินดานทำให้ดินร่วนซุย กินดินข้างใต้แล้วแทงตัวขึ้นมาผิวดินถ่ายมูลที่มีแร่ธาตุสำคัญต่าง ๆ

ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในดิน ทำให้พืชเติบโตเร็วแข็งแรง โดยช่วยแปรรูปของซากพืชซากสัตว์ให้เปลี่ยนไปเป็นสารอาหารที่จำเป็นของพืช เช่น ไนโตรเจนในรูปแอมโมเนีย และไนเตรท ฟอสฟอรัส กำมะถัน แคลเซียม และธาตุอาหารอื่น ๆ ผ่านกระบวนการกินแล้วย่อยสลายถ่ายออกมาเป็นมูลไส้เดือน และยังใช้ไส้เดือนในการย่อยขยะอินทรีย์ ลดปริมาณขยะ สร้างรายได้จากปุ๋ยอินทรีย์ ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะ

ช่วยเพิ่มและแพร่กระจายจุลินทรีย์ในดิน เข่น ไรโซเบียม ไมคอร์ไรซา กระตุ้นการสร้างรากพืชและทำให้รากแข็งแรง และในขุยไส้เดือนมีสารออกซินที่ช่วยกระตุ้นการสร้างรากของพืชอีกด้วย

ป้องกันวัชพืช ในดินที่มีไส้เดือนจำนวนมากจะมีวัชพืชน้อยเพราะไส้เดือนจะกินเมล็ดวัชพืชเป็นอาหาร และการเร่งให้พืชเจริญเติบโตได้เร็วทำให้สามารถเกิดร่มเงาคลุมดินทำให้วัชพืชเติบโตได้ช้าลง หรือปลอดวัชพืช นอกจากนี้ยังช่วยกัดกินหนอนที่ทำลายราก หรือหน่อพืชอีกด้วย

ช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดดิน ในขณะที่ไส้เดือนชอนไชในดิน เมือกที่ตัวจะสร้างความชื้นทำให้ดินจับตัวเป็นก้อนช่วยให้ดินอุ้มน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้ดินดีต่อการเจริญเติบโตของพืช ประหยัดการให้น้ำ

เป็นอาหารของสัตว์ ไส้เดือนอุดมด้วยโปรตีน กรดอะมิโน และสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ในเนื้อเยื่อของไส้เดือนดินเหมาะสมแก่การเลี้ยงสัตว์ซึ่งสามารถนำมาเป็นอาหารโดยตรง และแปรรูปเป็นส่วนผสมของอาหาร เช่น ปลา กบ สัตว์ปีก สุกร หนู ปลาตู้ ไก่ชน และเป็นเหยื่อตกปลา

เป็นสัตว์เศรษฐกิจสร้างอาชีพ ด้วยประโยชน์มากมายของไส้เดือน การเพาะเลี้ยงที่ง่ายไม่ซับซ้อน ใช้ต้นทุนต่ำ ประโยชน์ใช้งานสูง ทำให้ได้รับความนิยมเพาะเลี้ยงเพื่อขายพันธุ์,ทำน้ำมูลไส้เดือน,ดินมูลไส้เดือน ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ที่สร้างมูลค่าตลาดได้สูงกว่าพืชที่ปลูกด้วยกรรมวิธีทั่วไป

ไส้เดือนดินสัตว์ใต้ดินที่เปลี่ยนสถานะจากสัตว์ตามธรรมชาติมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถสร้างประโยชน์ได้ตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปถึงการสร้างเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกร เข้าใจประโยชน์พร้อมนำไปประยุกต์ใช้ จะช่วยประหยัดต้นทุน ลดสารเคมีทำลายดิน ได้ผลผลิตดี ผู้บริโภคมีชีวิตที่ปลอดภัยมากขึ้น

10 เทคนิคใส่เสื้อผ้าของสาวอวบให้ดูผอม

10 เทคนิคใส่เสื้อผ้าของสาวอวบให้ดูผอม

ความอวบอ้วนเป็นเรื่องไม่พึงใจสำหรับสาว ๆ ส่วนใหญ่ แต่ในเมื่อยังไม่สามารถทำหุ่นให้เป๊ะได้ การแต่งกายก็กลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยพรางหุ่นให้ดูดีจนมองข้ามส่วนเกินที่ไม่พึงปรารถนาไปได้เช่นกัน จริงๆแล้วไม่ว่าหนุ่มอ้วนที่เอาแต่นั่งเช็คบ้านผลบอลกินขนมไปพลางๆไม่ออกกำลังกายก็สามารถดู How To อันนี้เป็นทริคการเลือกเสื้อผ้าได้เหมือนกัน สาว ๆ จะแต่งตัวอย่างไรกันดีจึงจะดูดีมีความผอมเพรียว ลองไปดูเทคนิคเหล่านี้

  1. ใส่เสื้อผ้ามิดชิดปิดส่วนเกิน บริเวณที่จะฟ้องความอวบอ้วนได้คือ ช่วงแขน พุง ท่อนขาส่วนบน ให้เลือกใส่เสื้อผ้าที่ปิดทั้ง 3 ส่วนนี้ เช่น เสื้อจะต้องเป็นเสื้อมีแขนเท่านั้น เลือกใส่กางเกงขาสั้นแบบ 4 หรือ 5 ส่วน ในแบบพอดีตัว ไม่รัด เน้นเห็นลอนเนื้อ หากจะใส่ขาสั้นลองเลือกกางเกงที่มีแถบข้างจะช่วยทำให้ขาดูเรียวยาวขึ้น
  2. เลือกเสื้อผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ น้ำเงิน หากไม่ชอบสีพื้นล้วน ๆ อาจแซมด้วยสีอ่อนได้บ้างเล็กน้อย จะทำให้ดูลำตัวแคบ เพรียวลง
  3. ใส่เสื้อแนวตั้ง หากจะใส่เสื้อที่มีลวดลายให้เลือกที่มีเส้นแนวตั้ง อาจจะทั้งตัว หรือแซมบางส่วน เช่น ช่วงข้างลำตัวจะทำให้ลำตัวดูสูงเพรียว
  4. ใส่เดรสสั้น กระโปรงทรงเอ หรือทรงสอบ ทำให้ดูตัวชะลูดมากขึ้น หลีกเลี่ยงกระโปรงบานกรุยกรายจะยิ่งเพิ่มความอ้วน
  5. เลือกเสื้อคอวี หรือเสื้อเปิดไหล่ จะดูโปร่ง ไม่กลมตัน หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สามารถสวมเครื่องประดับเด่นๆ เส้นยาวเป็นตัวช่วยได้อีกทางหนึ่ง
  6. เลือกขนาดเสื้อผ้าที่พอดีตัว ไม่ฟิต รัด เน้นเห็นสัดส่วนจะทำให้เห็นส่วนเกินได้ชัดเจน และต้องไม่หลวมตัวโคร่ง เพราะจะยิ่งทำให้รูปร่างดูอ้วนใหญ่เทอะทะมากขึ้น การใส่ให้พอดีตัวจะสร้างความมั่นใจให้ผู้สวมใส่มากขึ้นด้วย
  7. ใส่ส้นสูงเสริมความเพรียว รองเท้าส้นสูงช่วยเบี่ยงความสนใจจากความอวบ เสริมความสง่า มั่นใจ เลือกคู่ที่ใส่สบาย เดินสะดวก ขณะใส่จะรู้สึกว่าตัวเองผอมเพราะความสูงช่วยสร้างความรู้สึกใหม่ที่มั่นใจมากขึ้น ใส่ทุกครั้งที่ออกงานกับเดรสสวย
  8. อย่าพับขากางเกง กรณีที่ใส่กางเกงขายาว อย่าพับขากางเกงขึ้นจะทำให้ดูเตี้ย ป้อม ขาดความชะลูด ดูไม่สง่า
  9. ใส่กางเกงเอวสูง กางเกงเอวสูงจะช่วยกระชับ ก้น เก็บพุงได้ดี และดึงตัวให้ดูสูงขึ้นด้วย
  10. ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ผ้าคลุมไหล่สีเข้ม เครื่องประดับทรงยาว เข็มขัดช่วยอำพรางหน้าท้อง กางเกงชั้นในเก็บทรง (ตามความจำเป็น) เป็นต้น

สาวอวบที่รู้เทคนิคแต่งตัวพรางตา ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้พบเห็น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าราคาแพง เพียงนำเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้สาวอวบทั้งหลายก็คลายความกังวลใจไปได้มากแล้ว