Tag Archives: เรื่องน่ารู้

วิธีการดูแลรักษาต้นไม้ให้เจริญงอกงาม

วิธีการดูแลรักษาต้นไม้ให้เจริญงอกงาม

การปลูกต้นไม้โดยตั้งใจให้ต้นไม้เจริญรุ่งเรืองถือเป็นเป้าหมายที่ยอดเยี่ยม! ต้นไม้มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในรูปแบบนับไม่ถ้วน และการเห็นต้นไม้เจริญเติบโตก็ให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จ ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อช่วยให้ต้นไม้ของคุณเจริญรุ่งเรือง:

การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสม

ภูมิอากาศ: ดอกคำใต้มีภูมิอากาศแบบเขตร้อน มีต้นไม้หลายชนิดที่จะเจริญเติบโตที่นั่น! ค้นคว้าต้นไม้พื้นเมืองที่เหมาะกับรูปแบบปริมาณฝนและอุณหภูมิของภูมิภาคของคุณ
วัตถุประสงค์: คุณต้องการต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ไม้ผล หรืออย่างอื่นหรือไม่? พิจารณาว่าคุณจะใช้ต้นไม้เพื่อเลือกพันธุ์ที่ตรงกับวัตถุประสงค์นั้นได้อย่างไร
สภาพดิน: ต้นไม้แต่ละชนิดชอบดินที่แตกต่างกัน (ดินเหนียว ทราย ฯลฯ) การทำความเข้าใจองค์ประกอบของดินจะช่วยให้คุณเลือกต้นไม้ที่จะเติบโตได้ดี

การปลูกฝังเพื่อความสำเร็จ

ระยะเวลา: เวลาในการปลูกที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับพันธุ์ไม้และสภาพอากาศในท้องถิ่นของคุณ ดอกคำใต้แนะนำให้ปลูกในช่วงฤดูฝน (โดยทั่วไปคือเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม)
สถานที่: คิดถึงขนาดที่โตเต็มที่และการแพร่กระจายของราก อย่าปลูกใกล้อาคารหรือสายไฟมากเกินไป
เทคนิคการปลูก: ขุดหลุมที่เหมาะสม คลายรากที่อัดแน่นไว้ และปลูกต้นไม้ในระดับความลึกที่ถูกต้อง

ช่วยให้ต้นไม้ของคุณเจริญเติบโต

รดน้ำ: รดน้ำให้ลึกและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในปีแรกหรือสองปีแรก
การคลุมดิน: ใช้วัสดุคลุมดินเป็นชั้นรอบโคนต้นไม้เพื่อรักษาความชื้นและกำจัดวัชพืช
การตัดแต่งกิ่ง: ตัดต้นอ่อนเพื่อส่งเสริมโครงสร้างการเจริญเติบโตที่เหมาะสม

มีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะช่วยคุณเลือกและดูแลต้นไม้ นี่คือสองสามตัวเลือก

กรมป่าไม้ในพื้นที่ของคุณสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับพันธุ์ไม้พื้นเมืองและเทคนิคการปลูกได้ Arbor Day Foundation https://www.arborday.org/ เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ เว็บไซต์ของพวกเขามีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการเลือกต้นไม้และการดูแล เมื่อปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการปลูกต้นไม้ที่จะเติบโตต่อไปอีกหลายปี

อุปกรณ์พื้นฐาน ที่มือใหม่หัดเย็บควรมี

อุปกรณ์พื้นฐาน ที่มือใหม่หัดเย็บควรมี

สำหรับผู้เริ่มเย็บผ้า ควรเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือพื้นฐานเพื่อสร้างทักษะที่จำเป็น รายการสิ่งของที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับผู้เริ่มต้นในการตัดเย็บมีดังนี้

จักรเย็บผ้า

เลือกจักรเย็บผ้าขั้นพื้นฐานที่ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีคุณสมบัติที่จำเป็น เช่น ตะเข็บตรง ตะเข็บซิกแซก และตัวเลือกตะเข็บถอยหลัง

เข็ม

เข็มเย็บมือแบบต่างๆ สำหรับการซ่อมแซมขั้นพื้นฐาน

เข็มจักรเย็บผ้าที่เหมาะกับผ้าต่างๆ (เช่น เข็มสากล, ปากกาลูกลื่น หรือเข็มเดนิม)

เกลียว

สีด้ายพื้นฐาน เช่น โทนสีดำ สีขาว และโทนสีกลางๆ

เลือกประเภทด้ายให้ตรงกับเนื้อผ้าของคุณ (โพลีเอสเตอร์เหมาะสำหรับมือใหม่)

กรรไกรตัดผ้า

กรรไกรคุณภาพสูงสำหรับตัดผ้าโดยเฉพาะ

เครื่องมือวัด

สายวัดสำหรับการวัดที่แม่นยำ

ไม้บรรทัดหรือปทัฏฐานสำหรับเส้นตรงและชายเสื้อ

หมุดและเบาะรองนั่ง

หมุดตรงสำหรับยึดชิ้นผ้าเข้าด้วยกัน

เบาะรองหมุดหรือที่ยึดหมุดแม่เหล็กเพื่อจัดระเบียบหมุดและอยู่ใกล้แค่เอื้อม

เครื่องเลาะตะเข็บ

ใช้ในการเลิกเย็บในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด

เตารีดและโต๊ะรีดผ้า

จำเป็นสำหรับการรีดตะเข็บและรับประกันการตกแต่งแบบมืออาชีพ

เครื่องมือทำเครื่องหมายผ้า

ชอล์ก ปากกามาร์กเกอร์บนผ้า หรือดินสอของช่างตัดเสื้อสำหรับทำเครื่องหมายลวดลายและเส้นแนวบนผ้า

กระสวย

กระสวยพิเศษสำหรับจักรเย็บผ้าของคุณ

พื้นที่จัดเก็บ

อุปกรณ์จัดระเบียบ เช่น ถังหรือกล่องเก็บของเพื่อเก็บอุปกรณ์เย็บผ้าของคุณให้เป็นระเบียบ

ลวดลาย

เลือกรูปแบบที่เรียบง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นสำหรับโปรเจ็กต์แรกของคุณ

ปลอกนิ้ว

ปกป้องนิ้วของคุณเมื่อเย็บด้วยมือ

มาตรวัดการเย็บผ้า

ช่วยวัดและทำเครื่องหมายชายเสื้อและค่าเผื่อตะเข็บได้อย่างแม่นยำ

หมุดความปลอดภัย

ใช้สำหรับซ่อมชั่วคราวหรือยึดชั้นผ้าไว้ด้วยกัน

ตีนผี

จักรเย็บผ้าบางรุ่นมีตีนผีที่แตกต่างกัน ทำความคุ้นเคยกับสิ่งพื้นฐานอย่างน้อยสองสามอย่าง

หนังสือเย็บผ้าหรือแหล่งข้อมูลออนไลน์

หนังสือเย็บผ้าสำหรับผู้เริ่มต้นหรือบทเรียนออนไลน์สามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้

จำไว้ว่าเมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น คุณอาจพบเครื่องมือและอุปกรณ์เพิ่มเติมที่เหมาะกับโครงการตัดเย็บเฉพาะของคุณ การเริ่มต้นด้วยพื้นฐานจะช่วยให้คุณสร้างรากฐานที่มั่นคงและมั่นใจในทักษะการตัดเย็บของคุณ

คนเราไม่นอนได้หรือไม่ การหลับพักผ่อนสำคัญไฉน?

คนเราไม่นอนได้หรือไม่ การหลับพักผ่อนสำคัญไฉน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดำรงชีวิตของคนเราเกือบ 1 ใน 3 หรือประมาณ 25 ปีหมดไปกับการนอน การที่ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนจะทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานดีมากขึ้น แต่กระนั้นคนเราก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าที่ควร ส่งผลให้สมาธิสั้น ความจำแย่ลงเรื่อย ๆ รวมไปถึงการตื่นตัวของร่างกายก็จะน้อยลง ฉะนั้นควรหันมาใส่ใจการนอนเพื่อสุขภาพที่ดี 

เหตุผลที่คนเราต้องนอนหลับ

การนอนหลับไม่เพียงทำให้คุณได้พักผ่อนเติมพลังเท่านั้น ยังมีอีกหลายปัจจัยที่คนเราต้องนอนเพื่อเสริมสร้างสิ่งต่าง ๆ ให้ร่างกาย เพื่อการดำรงอยู่ โดยมีเหตุผลดังนี้

•ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองในขณะที่กำลังหลับ โดยเฉพาะสมองที่ถูกใช้งานอย่างหนัก เมื่อพักผ่อนจะกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้ง

• เป็นการเก็บพลังงาน คล้ายกับการที่เราชาร์จแบตนั้นเอง

• การนอนคือการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม

• สุขภาพของสมองและประสาทต่าง ๆ ได้พักผ่อน

• อุณหภูมิของร่างกายจะมีความสมดุล

นอนนานแค่ไหนจึงจะเพียงพอ?

อายุ สุขภาพ เป็นปัจจัยที่ทำให้ความต้องการในการนอนหลับพักผ่อนของคนเราไม่เท่ากัน สำหรับผู้ใหญ่ควรนอนไม่ต่ำกว่าวันละ 7 ชั่วโมง ยกเว้นในกรณีที่ป่วยไม่สบายหรือก่อนหน้านั้นอดหลับอดนอน แน่นอนว่าร่างกายต้องการพักผ่อนเพิ่ม เพื่อให้พลังกลับมา ทางด้านของเด็กแนะนำว่าให้นอนไม่ต่ำกว่า 9 ชั่วโมง อย่างไรก็ต้องดูในเรื่องของช่วงอายุด้วยเพราะแต่ละวัยต้องการนอนหลับที่ต่างกัน ไม่ว่าจะวัยไหนการนอนคือการให้ร่างกายได้พักผ่อน โดยเฉพาะในเด็ก ๆ จะทำให้ร่างกายได้เจริญเติบโตและพัฒนาอย่างสมบูรณ์

ความสำคัญของการนอนที่คุณต้องรู้เพื่อสุขภาพที่ดี

แม้ว่าแต่ละวัยจะมีความต้องการในเรื่องของการนอนที่ต่างกัน ซึ่งเวลานอนที่เหมาะสมของคนทั่วไปคือจะต้องไม่เกินเที่ยงคืน ถือเป็นเวลาที่มีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอกอยู่และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตื่นคือไม่เกิน 8 โมงเช้า นอกจากนี้การนอนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นจะต้องปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้โล่ง ปรอดโปร่ง ทำให้หลับง่ายและนานมากขึ้น  

จากข้อมูลข้างต้นสรุปโดยรวมได้ว่าการนอนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในช่วงที่คุณกำลังหลับอยู่นั้นร่างกายกำลังซ่อมแซมตัวเองและชาร์จพลังและในแต่ละวัยควรนอนให้เพียงพออย่างเช่น วัยผู้ใหญ่ต้องนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมง เด็กแต่ละช่วงวัยนอนให้มากที่สุดตั้งแต่ 9 ชั่วโมงขึ้นไป นอกจากนี้หากคุณสังเกตว่าในตอนที่ง่วงแล้วได้หลับสัก 10 นาทีขึ้นไป จะรู้สึกเลยว่าสดชื่น กระฉับกระเฉงขึ้นมา นั้นเพราะร่างกายได้พักไปพร้อมกับได้เติมพลัง เพื่อสุขภาพที่ดีควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนมากไป เกิดผลเสียมากกว่าที่คุณคิดและนำไปสู่โรคร้ายได้

การนอนมากไป เกิดผลเสียมากกว่าที่คุณคิดและนำไปสู่โรคร้ายได้

ปัญหาของการนอน ไม่ได้มีเพียงแค่การนอนน้อยหรือนอนหลับไม่เพียงพอเท่านั้น แต่การนอนมากเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งตัวปัญหาที่ทำร้ายร่างกายของคุณได้ ข้อเสียการนอนมากเกินไป เมื่อตื่นแล้วก็รู้สึกว่าต้องการนอนต่อไปอีก ระหว่างวันก็ต้องการงีบหลับหลาย ๆ ครั้ง หากพบมีอาการหรือมีคนใกล้ตัวที่มีอาการแบบนี้แนะนำควรรีบนำมาพบแพทย์เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่าง ๆ ตามมาได้

ข้อเสียของการนอนมากเกินไป

  1. เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า

มีอารมณ์แปรปรวน สมองทำงานแย่ลงเพราะสารแห่งความสุขจะผลิตน้อยลง ซึ่งเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนที่นอนปกติถึง 49% ผู้ที่นอนหลับระหว่าง 7-9 ชั่วโมง มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าร้อยละ 27 ขณะที่ผู้ที่นอนหลับนาน 9 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นจะมีโอกาสเสี่ยงมากถึงร้อยละ 49

  1. สมองเบลอและความจำแย่

มองทำงานช้า ความคิดความอ่านก็จะช้า รู้สึกเฉื่อยชา กลายเป็นคนไร้เรี่ยวแรง ไม่มีชีวิตชีวา ไม่อยากขยับร่างกาย ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อไม่ค่อยถูกใช้งาน ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ มีการศึกษาในปี 2012 พบว่าหญิงชราที่นอนหลับมากเกินไปหรือน้อยเกินไปนานติดต่อกันมากกว่า 6 ปี สมองจะเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงาน เช่นเดียวกับหญิงสาวซึ่งนอนหลับมากกว่า 9 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า 5 ชั่วโมงก็จะมีสมองที่แก่เร็วกว่าปกติถึง 2 ปี 

  1. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเสี่ยงโรคเบาหวาน

การนอนจะทำให้ระบบอาหารไม่ย่อย แม้จะกินน้อยแต่ระบบเผาผลาญไม่ทำงาน ร่างกายเริ่มสะสมไขมัน ซึ่งก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ ความดัน และเบาหวาน นักวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมง จะมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 มากกว่าผู้ที่นอนหลับระหว่าง 7-8 ชั่วโมง มากถึง 2 เท่า แม้ว่าจะมีการควบคุมการเปลี่ยนแปลงของมวลร่างกายแล้วก็ตาม

  1. เสี่ยงเสียชีวิตเร็ว

คนที่หลับง่ายและนอนนาน ๆ จะไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ส่งผลให้ออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่นอนอย่างพอดีถึง 1.3%

เทคนิคการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ

นอนหลับได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ เข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่มเพื่อให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนดีๆ ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะช่วยให้หลับได้ดีรวมไปถึงทำให้ร่างกายมีการฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดห้องนอนให้โปร่ง อากาศระบายได้ดี ร่างกายที่ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจะทำให้สมองเซื่องซึม และง่วงนอนตลอดเวลา กำหนดตารางเข้านอน และตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกๆ วัน ติดต่อกัน 28 วัน ร่างกายจะสร้างระบบนาฬิกาชีวิตของตัวเราเองขึ้นมาใหม่ จะตื่นได้เองอย่างสดชื่น

วิธีดูแลบำรุงรักษา เครื่องปรับอากาศ ให้ใช้งานได้นาน

วิธีดูแลบำรุงรักษา เครื่องปรับอากาศ ให้ใช้งานได้นาน

เครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมีและย่อมมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งานเช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือการดูแลบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาวและจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่อยู่บ่อย ๆ ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีดูแลบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศให้ใช้งานได้นานจะมีอะไรบ้างลองไปเช็กกันเลย

1. หมั่นทำความสะอาดไส้กรอง / แผ่นกรอง

หากสังเกตดี ๆ ถ้าบ้านไหนอยู่ใกล้ถนนไส้กรองหรือแผ่นกรองอากาศในเครื่องปรับอากาศก็จะสกปรกเร็วขึ้นเนื่องจากการกรองฝุ่นละอองที่อยู่ปะปนในอากาศนั่นเอง ดังนั้นควรถอดไส้กรองมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง

2. ล้างอัดฉีด

เครื่องปรับอากาศเมื่อได้ผ่านการใช้งานประมาณ 4 – 6 เดือน ควรจ้างช่างมาล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่สำคัญจะได้ประหยัดค่าไฟรวมถึงยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น

3. เช็กระดับน้ำยา

น้ำยาแอร์คือสารทำความเย็นที่ไม่มีกลิ่นโดยจะเป็นองค์ประกอบหลักของเครื่องปรับอากาศ หากใช้ไปนาน ๆ น้ำยาจะหมดไปอาจทำให้เครื่องทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหลังจากล้างอัดฉีดควรให้ช่างทำการตรวจเช็กระดับน้ำยาแอร์ทุกครั้ง

4. สังเกตเสียงดังผิดปกติ

ขณะที่เปิดใช้เครื่องปรับอากาศควรหมั่นฟังเสียงการทำงานของเครื่อง โดยหากพบว่ามีเสียงดังผิดปกติควรรีบแจ้งทางช่างชำนาญการเพื่อทำการแก้ไขขั้นต่อไป

5. เลี่ยงการใช้ความร้อนในห้องที่มีแอร์

ถ้าไม่อยากให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักจนเกินไปไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น ไมโครเวฟ, หม้อหุงข้าว, เตาแม่เหล็กไฟฟ้า, เตาอบ ในห้องแอร์

6. เช็คหน้าต่างประตูว่าปิดสนิทดีหรือไม่

แน่นอนว่าห้องที่มีเครื่องปรับอากาศจะต้องปิดให้สนิทเพื่อไม่ให้เครื่องทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งหากพบว่าหน้าต่างปิดไม่สนิทหรือประตูมีช่องว่างกว้างเกินไปให้รีบแก้ไขในทันที

7. เลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง

ความเหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะผู้ใช้งานจะต้องรู้ว่าขนาดพื้นที่ในห้องควรจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบไหน

8. อย่าให้แสงแดดส่องเข้าห้องโดยตรง

หากห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศอยู่ในตำแหน่งที่รับแสงแดดโดยตรงควรติดตั้งม่านกำบังแดด เพื่อกรองแสงให้ผ่านเข้ามาในห้องได้น้อยที่สุดและจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้นอีกทั้งยังช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักจนเกินไปอีกด้วย

และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีดูแลบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศให้ใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังทำให้คุณภาพอากาศภายในบ้านดีขึ้นให้คุณสูดอากาศสดชื่นไร้กลิ่นอับนอนหลับสบายแถมยังลดการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย

บริหารร่างกายเช่นไรให้สมควร เมื่อโลกอ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ

ในตอน 10 ปีให้หลังกรมอนามัยได้พบว่าเด็กไทยมีอุบัติการณ์โรคอ้วนมากขึ้นอย่างเร็ว รวมทั้งตามสถิติบางทีอาจสรุปได้ว่า ไทยมีการเพิ่มเด็กอ้วนเร็วที่สุดในโลก โดยวัยก่อนเข้าโรงเรียน(อายุน้อยกว่า 6 ปี) อ้วนมากขึ้น 36%แล้วก็เด็กนักเรียน(อายุ 6-13 ปี) อ้วนมากขึ้น 15.5% แล้วก็ยังได้ประมาณไว้อีกว่าในปี 2558 เด็กไทยก่อนวัยศึกษาจะเป็นโรคอ้วน 20% และก็เมื่อเข้าวัยศึกษาจะมีรูปร่างอยู่ที่ 10%

2-Obese-kidsต้นเหตุที่เป็นแบบนี้ก็ล้วนมาจากการบริโภคของกินที่มีแคลอรี่และก็น้ำตาลที่สูงเกินขนาด รับประทานแต่ว่าของกินมีแป้งมากมาย รสจัดรวมถึงอาหารจานด่วน ส่วนของกินที่มีคุณประโยชน์จะมีคุณค่าทางโภชนาการจะไม่เลือกกิน และก็ที่สำคัญเป็นไม่บริหารร่างกายอีกต่างหากซึ่งสิ่งที่ตามมากับภาวการณ์อ้วนเป็นโรคต่างๆได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคฟุตบาทหายใจ อื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นวิธีการป้องกันควรต้องเริ่มจากสถาบันครอบครัวโดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
1. เปลี่ยนแปลงค่าความนิยมบางสิ่งบางอย่าง ได้แก่ มีความคิดว่าเด็กยิ่งอ้วนยิ่งน่ารักน่าเอ็นดู หรือรู้สึกว่าอ้วนตอนเด็กช่างเถอะโตขึ้นก็ผอมบางเองเนื่องจากว่าจากการวิจัยทุกสำนักพบว่าเด็กอ้วนส่วนใหญ่เมื่อโตขึ้นก็จะอ้วนเหมือนกัน

2. สร้างนิสัยการกินให้พอดิบพอดี อย่าคิดเองว่าลูกหิวหรือรับประทานไม่อิ่มสิ่งจำเป็นควรจะมองจากการเติบโต ความเชื่อมโยงระหว่างน้ำหนักแล้วก็ความสูงความสูงรวมทั้งวิวัฒนาการด้านอื่นที่คืบหน้าไหมควบคู่กันหรือเปล่า
3. เน้นย้ำของกินที่มีสาระมากยิ่งกว่าความอร่อย โดยทั่วไปลูกจะทานอาหารตามบิดามารดา ก็เลยไม่ยุ่งยากต่อการปลูกฝังประเด็นการเปลืองที่ถูกหลักโภชนาการ บิดามารดาแล้วก็คนแก่ในบ้านควรจะเป็นแบบอย่างสำหรับการเปลืองที่ดีด้วย

4. หลบหลีกการกินของกินนอกบ้าน ด้วยเหตุว่าของกินพวกนั้นถูกวางแบบมาเพื่อประทับใจลูกค้า ยิ่งถ้าหากกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก ก็จะวางแบบเน้นย้ำหวานมันกรอบแคลอรี่สูงๆซึ่งนับมีอันตรายต่อเด็ก
5. ปลูกฝังหัวข้อการบริหารร่างกาย นับเกิดเรื่องที่สำคัญมากๆเพราะว่านอกเหนือจากจะมีผลให้ไม่อ้วนแล้วยังเป็นการสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรงรวมทั้งมีการเติบโตอย่างเหมาะควร การบริหารร่างกายกันทั้งยังครอบครัวยังเป็นการปรับปรุงด้านอารมณ์อีกด้วย จำเป็นที่จะต้องอุตสาหะหาช่องทางหรือสร้างกิจกรรมเพื่อได้ขยับเขยื้อนร่างกายอยูบ่อยๆ
การบริหารร่างกายในวัยนี้ เน้นย้ำสำหรับในการเพิ่มความกระชุ่มกระชวย ปลูกฝังให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นักกีฬาแล้วก็ให้มีการแสดงออกถึงความรู้ความเข้าใจเฉพาะบุคคล เพื่อมีการปรับปรุงร่างกายทุกส่วน ได้แก่ การวิ่ง ยิมนาสติกบอล ว่าย ปั่นจักรยาน และก็การละเล่นต่างๆซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินสานให้กับเด็กได้อย่างยอดเยี่ยม การบริหารร่างกายในทุกวันควรจะใช้เวลารวมทั้งสิ้นวันละ 2 ชั่วโมง สลับกับการพักเป็นช่วงๆ(ไม่สมควรบริหารร่างกายติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆเกินความจำเป็น)

สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับการบริหารร่างกายในเด็ก

– ภาวการณ์ที่เด็กเจ็บป่วย มีลักษณะอาการตัวร้อน ห้ามบริหารร่างกายถึงจะเป็นไข้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆก็ไม่สมควรให้เด็กไปเล่น หรือออกแรงที่จะต้องมีหลักการทำงานของกล้ามมากมายๆ
– ภาวการณ์ขาดน้ำภายในร่างกาย เด็กที่มีลักษณะอาการถ่ายเหลวหรืออ้วกมากมายๆมีลักษณะเมื่อยล้า ควรจะงดเว้นกิจกรรมการเล่นของเด็กไม่สมควรให้เด็กออกแรงเคลื่อนเยอะเกินไป
– เลี่ยงการบริหารร่างกายเวลาที่อากาศร้อนมาก มีแสงอาทิตย์มากมายๆหรือถ้าเกิดมีการบริหารร่างกายก็ต้องมีการจัดหาน้ำกินให้พอเพียงสำหรับความอยากของเด็ก

10 อาหารสำหรับคนรักสุขภาพที่คุณควรจะบริโภค นักกีฬาควรจะทราบ

นอกเหนือจากการเลือกกินอาหารที่มีรสชาติอร่อยแล้ว การคัดสรรของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการนับเป็นสิ่งที่จำเป็นอันดับที่หนึ่งของชีวิต อันจะก่อให้เกิดชีวิตที่ยืนยาวรวมทั้งลดการเสี่ยงของโรคต่างๆจากการสำรวจของกินทั่วทั้งโลก พวกเรามาดูกันว่า ของกิน 10 ประเภทที่เป็นประโยชน์สูงสุดมีอะไรบ้าง

1. ผลแอปเปิ้ล อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ(โพลีฟีน) ที่ปฏิบัติภารกิจต้านสารที่ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนที่ไม่พึงปรารถนาทั้งยังแนวทางการเฒ่าและก็โรคบางโรค ยังเจออีกว่าคนที่รับประทานลูกแอปเปิ้ลเสมอๆจะลดการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ 13-22%

2. อัลมอนด์ เต็มไปด้วย ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, วิตามินอี, เส้นใย, ไรโบฟลาวิน แล้วก็แมกนีเซียม ช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอล ด้วยเหตุว่ามีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 91-94% ทั้งมีจำนวนเส้นใยมากที่สุดในบรรดาถั่วต่างๆสามารถรักษาสมดุลของร่างกายให้สมควร เป็นอาหารหวานที่ดีเพื่อสุขภาพหัวใจ

3. บร็อคโคลี่ เป็นผักที่มีเส้นใยมากมาย มีเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระวิตามินซี โฟเลต โพแทสเซียม แคลเซียม รวมทั้ง ไฟโตนิวเตรียน ช่วยลดการเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน นอกนั้นยังมีเอ็นไซม์ไมโรสิเนส ซึ่งสามารถลดการเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ชี้แนะว่าไม่สมควรต้มผักนานเหลือเกินเพราะเหตุว่าจะเป็นการทำลายสารอาหาร วิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุดเป็นการอบไอน้ำ

4. บลูเบอร์ปรี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระแล้วก็เส้นใย สถาบันหมอฮาร์วาร์ดพบว่าบลูเบอร์ปรี่ รวมทั้งสตรอเบอร์รี่ จะยืดสภาวะการเขียนนึกออกนานขี้น ทั้งช่วยสำหรับในการเหนี่ยวรั้งโรคอ้วน สารโพลีฟีนจะลดการพัฒนาของเซลล์ไขมันและก็ทำให้มีการเกิดการเสื่อมสลาย ช่วยสำหรับในการควบคุมน้ำหนักตัว ช่วยลดการเสี่ยงจากภาวะความดันโลหิตสูง เส้นโลหิตแดงแข็งและก็โรคไส้ อีกทั้งช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย

5. น้ำมันปลา ดังเช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ปลาทู ปลาเฮอริ่ง ปลาซาร์ดีน ปลากะตัก อื่นๆอีกมากมาย ปลากลุ่มนี้มีน้ำมันถึง 30% ในรอบๆเยื่อและก็รอบไส้ โดยมีโอเมก้า 3 รวมทั้งวิตามินดี ที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีคุณประโยชน์ต่อระบบหัวใจรวมทั้งระบบประสาท ยิ่งไปกว่านี้ยังเหมาะกับผู้เจ็บป่วยโรคไขข้ออักเสบ และก็ยังช่วยต่อต้านโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งเต้านมได้อีก

6. ผักใบเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะแยะ เป็นแหล่งวิตามิน A, B6, C, Eรวมทั้ง K รวมถึงซีลีเนียมไนอาสิน, สังกะสี, ธาตุฟอสฟอรัส, ทองแดง, กรดโฟลิคโพแทสเซียมแคลเซียม , แมงกานีส ละธาตุเหล็ก ผักโขมและก็กะหล่ำปลีสามารถลดการเสี่ยงของเบาหวาน ผักต่างๆจะมีสารอาหารเยอะที่สุดเมื่อยังดิบหรือนึ่ง-ต้มเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ

7. มันฝรั่งหวาน อุดมไปด้วยใยอาหาร เบต้าแคโรทีน, คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน, วิตามิน C, วิตามิน B6 ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อผลดีสาธารณะสหรัฐอมเริกาได้กระทำการเทียบคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมันแล้วก็ผักต่างๆสรุปว่า มันมีสารอาหารเป็นชั้น 1 โดยมีวิตามิน A แล้วก็ C, ธาตุเหล็ก, คาร์โบไฮเดรต ,โปรตีน แล้วก็แคลเซียม เนื่องจากรากมันอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ

8. จมูกข้าวสาลี จมูกข้าวเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของข้าวที่ช่วยสำหรับเพื่อการเติบโต เมื่อเมล็ดพืชถูกสีหรือขัด จมูกและก็รำข้าวก็จะหลุดออกมา จมูกข้าวสาลีมีเส้นใยมากมาย มีสารอาหารที่สำคัญหลายประเภทเป็นต้นว่าวิตามินอี, กรดโฟลิค (โฟเลต), วิตามินบี, สังกะสี, แมกนีเซียมธาตุฟอสฟอรัสรวมทั้งยังมีแอลกอฮอล์ไขมันรวมทั้งกรดไขมันที่จำเป็นจะต้องต่อสถาพทางร่างกาย

9. อะโวคาโด คนไม่ใช่น้อยเลี่ยงอะโวคาโดเพราะเหตุว่ามีความคิดว่ามีจำนวนไขมันสูง ซึ่งในความจริง 75% ของแคลอรี่ในอะโวคาโดมาจากไขมันไม่อิ่มตัวเชิงผู้เดียวที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพร่างกาย อะโวคาโดมีเส้นใยสูงมากมายมีวิตามินบี เค อี แล้วก็มีโพแทสเซียมถึง 35% (มากยิ่งกว่ากล้วย) ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด สารสกัดจากอะโวคาโดช่วยรักษาโรคโรคเบาหวาน โรคความดันเลือด สามารถหยุดเซลล์ของมะเร็งในโพรงปากรวมทั้งทำลายเซลล์เล็กน้อยที่ก่อตัวเป็นโรคมะเร็ง

10. ข้าวโอ๊ต นิยมเอามาดัดแปลงเป็นโจ๊กหรือซีเรียล การกินข้าวโอ๊ตบ่อยๆวันจะก่อให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดต่ำลง ด้วยเหตุว่าจำนวนเส้นใยของเมล็ดพืชสามารถช่วยสลายได้ ในปี 1997 หน่วยงานของกินแล้วก็ยาได้รับรองว่า ข้าวโอ๊ตเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน วิตามิน B, โอเมก้า 3กรดไขมัน, โฟเลตแล้วก็โพแทสเซียม ช่วยทำให้ปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมควร มีคุณประโยชน์ต่อหัวจิตใจแล้วก็เส้นโลหิตหัวใจ และก็จะมีคุณภาพสุดกำลังถ้าหากกินอาหารไขมันต่ำควบคู่กัน

แนวทางการเลือกรองเท้าบริหารร่างกายแล้วก็เล่นกีฬา

การเลือกรองเท้าสำหรับเพื่อการบริหารร่างกายหรือเล่นกีฬา บางทีอาจคือปัญหาของคนอีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งการเลือกรองเท้านั้นมีความหมายมากมายเนื่องจากว่าหากเลือกไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกหลักไม่ถูกชนิดก็อาจส่งผลให้กำเนิดปัญหาต่างๆตามมา ยกตัวอย่างเช่นรองเท้ากัด ปวดเท้า เป็นตาปลาพังผืด เท้าอักเสบ หรือบางรายบางทีอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างการบริหารร่างกายจนกระทั่งขั้นเจ็บร้ายแรงก็มี เพราะฉะนั้นพวกเราก็เลยมีวิธีการการเลือกรองเท้าบริหารร่างกายที่สมควรมาฝากกัน

1. เลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับชนิดการบริหารร่างกาย ตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดปรารถนาบริหารร่างกายในร่มหรือฟิตเนสทั่วๆไป ควรที่จะเลือกรองเท้าที่ค่อยสบายกระฉับกระเฉง ยึดเกาะกับทุกภาวะผิว หรือถ้าหากเป็นรองเท้าวิ่งที่โล่งแจ้ง ก็ควรเป็นรองเท้าที่ใส่นุ่มสบาย แข็งแรง มีพื้นและก็ส้นรองเท้าที่รับแรงชนก้าวหน้า ด้วยเหตุว่าจำเป็นต้องรองรับกดทับแบบบ่อยๆเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ส่วนในกีฬาแต่ละจำพวกควรจะเลือกรองเท้าที่สร้างขึ้นมาเฉพาะกีฬานั้นๆเป็นต้นว่า แบดมินตัน บอล เทนนิส บาสเก็ตบอล กอล์ฟ อื่นๆอีกมากมาย

2. ควรจะเลือกรวมทั้งทดลองรองเท้าในตอนเย็น เนื่องจากว่าในตอนเวลาเย็นมีการเดินวิ่งหรือทำกิจกรรมต่างๆมาตลอดวันทำให้โลหิตไหลเวียนลงสู่เท้าเยอะขึ้น ทำให้เท้าขยายใหญ่ที่สุด ช่วงนี้ก็เลยเหมาะสมที่จะเลือกรองเท้าสูงที่สุดเพื่อคุ้มครองปกป้องปัญหารองเท้าคับและไม่เข้ารูป
3. เลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับทรงเท้าตนเอง ประการแรกจำเป็นต้องมองรูปแบบของอุ้งเท้าตนเองว่ามีลักษณะใด ระหว่าง เท้าแบน เท้าธรรมดา เท้าโค้ง หรือ (พินิจได้จากการประทับอุ้งเท้าลงบนทราย)
– เท้าแบน (อุ้งเท้าคุณไม่มีส่วนเว้าโค้งเลย) จำเป็นต้องเลือกรองเท้าที่เน้นย้ำความยั่งยืนมั่นคงของการวิ่ง เพราะว่าเป็นการวิ่งที่ใช้เท้าภายใน เวลาเลี้ยวบางทีอาจล้มได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ควรที่จะเลือกซื้อรองเท้าชนิด “Motion Control” หรือ “Stability”

– เท้าธรรมดา (ฝ่าตีนมีส่วนเว้าราว 3 ใน 4) สามารถเลือกรองเท้าได้ทุกแบบอย่างเนื่องจากว่าเป็นทรงเท้าที่ตามมาตรฐาน เขยื้อนและก็ทรงตัวได้ปกติ

– เท่าโค้ง (ฝ่าตีนมีส่วนโค้งส่วนเว้ามากมายหรือรอยตีนขาด) คนที่มีทรงเท้ารูปแบบนี้เมื่อบริหารร่างกายเป็นระยะเวลานานๆจะรู้สึกเจ็บปวดปวดเมื่อยได้ง่ายเนื่องจากว่าน้ำหนักจะลงเฉพาะส่วนปลายและก็ส้นตีน จะต้องเลือกรองเท้าที่มีคำว่าว่า “Flexible” หรือ “Cushioned”

4. ทดลองรองเท้าด้วยตัวเอง เป็นขั้นตอนที่สำคัญยิ่งสำหรับเพื่อการเลือกรองเท้า จะต้องทดสอบสวม รวมทั้งทดลองด้วยการเคลื่อนไหว โดยมีข้อพึงปฏิบัติดังต่อไปนี้

– เลือกขนาดรองเท้าที่ไม่คับหรือหละหลวมเหลือเกิน(ให้สวมถุงเท้าขณะทดลองรองเท้า) เมื่อขยับส้นตีนติดข้างหลังข้างหน้าเท้าควรมีพื้นที่ให้นิ้วเท้าขยับเขยื้อนได้สบาย (หรือทดลองโดยดันเท้าไปข้างหน้าสุด แล้วใส่นิ้วมือลงข้างหลังล้นเท้า ให้ใส่ได้ 1 นิ้วพอดิบพอดี)

– ส้นรองเท้าควรจะกระชับพอดิบพอดีกับข้างหลัง ไม่ขยับขึ้นลง รองเท้าห่อและก็ยึดส่วนข้อเท้าได้อย่างแข็งแรงมั่นคง

– ใส่แล้วรู้สึกนุ่มสบายไม่เคยทราบสึกอึดอัดคับแน่น มีการระบายอากาศที่ดีเมื่อทดลองด้วยการเดิน-วิ่ง-กระโจน รองเท้าจะยึดเท้าให้อยู่ด้านในตัวรองเท้า ไม่เเลื่อนไหลหรือหลุดขณะทดลอง

5. ดูแลรองเท้าให้ดีตลอดการใช้งาน เมื่อท่านได้รองเท้าคู่ใจมาแล้วหลังจากนั้นก็น่าจะดูแลให้ดี ทั้งยังการใช้แรงงานให้ถูกจำพวก การดูแลและรักษาความสะอาด ควรจะซักและก็ผึ่งแดดอย่างสม่ำเสมอ เมื่อไม่มีการใช้แรงงานควรจะใส่ดันทรงเพื่อไม่ให้ผิดรูปร่างรองเท้า คนที่บริหารร่างกายบ่อยๆต้องมีรองเท้าสำรองอีก 1 คู่ แล้วก็เมื่อมีการเสียเสียหายควรจะรีบซ่อมบำรุงอย่างฉับพลัน

เครื่องมือบริหารร่างกายนำพาสำหรับนักกีฬาที่จำเป็นต้องเดินทาง

การเสริมการบริหารร่างกาย แล้วก็กลยุทธ์บริหารร่างกายเข้ามาในชีวิตประจำวัน นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าพอควร โดยเฉพาะถ้าหากคุณเป็นผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นเนื่องจากว่าหน้าที่การงานหรือเพื่อการคลายเครียดการดูแลรักษาสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะที่ดีเยี่ยมที่สุด เป็นสิ่งในที่สุดที่คุณจะนึกถึง แน่ๆว่ามันง่ายดายยิ่งกว่ากันแม้คุณจะเว้นจากการบริหารร่างกายระหว่างการเดินทาง

การบริหารร่างกายระหว่างเดินทาง หรือในช่วงหยุดงานไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นภาระหน้าที่อีกต่อไป มากมายไปกว่านั้นผลดีที่คุณจะได้รับจากการดูแลรักษากิจวัตรประจำวันการบริหารร่างกายของคุณก็มีอีกเพียบเลยก่ายกอง สิ่งแรกเป็นการดูแลและรักษาระเบียบการบริหารร่างกายที่ดี แม้คุณมีแผนบริหารร่างกายเป็นประจำในตอนที่มิได้เดินทางอยู่แล้ว

นอกนั้น การบริหารร่างกายยังช่วยทำให้คุณมีสติสัมปชัญญะแล้วก็บรรเทาระหว่างการเดินทาง ช่วยลดความตึงเครียด แล้วก็ทำให้ท่านเพลิดเพลินใจไปกับการเดินทางมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยเป้าประสงค์ใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือท่องเที่ยว

นี่เป็นแบบอย่างเครื่องไม้เครื่องมือบริหารร่างกายเป็นลู่ทาง สำหรับคนที่ต้องการรักษาหุ่นระหว่างการเดินทาง ในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หรือในสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด

1. เชือกกระโจน
การกระโดดเชือกบางทีอาจมองเป็นการละเล่นในสนามเด็กเล่น แต่ว่าโดยความเป็นจริงแล้วมันถือได้ว่าเป็นการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโออย่างมากที่จะต้องใช้ความสมดุล ความแข็งแรง แล้วก็ความคล่องตัว พกเชือกกระโจนติดกระเป๋าสำหรับใช้ในการเดินทางแล้วคุณจะไม่ต้องพลาดการบริหารร่างกายเนื่องจากว่าตารางการเดินทางของคุณอีกเลย

2. เชือกบริหารร่างกาย TRX suspension
การบริหารร่างกายโดยใช้เชือกบริหารร่างกาย TRX suspension เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ดีสำหรับในการบริหารร่างกายแบบตลอดตัวและก็ฝึกฝนกล้ามที่เป็นแกนหลักที่ทำเป็นดูเหมือนจะทุกที่ ถึงแม้ว่าเครื่องมือตัวนี้จะแพงค่อนข้างจะแพง แต่ว่าคุณสามารถบริหารร่างกายได้หลายร้ายท่าโดยใช้น้ำหนักตัวเองเป็นแรงต้านทาน

3. เครื่องมือติดตามการบริหารร่างกาย Fitbit
อุปกรณ์ที่สำหรับใช้ในการวัดปริมาณก้าว แล้วก็วัสดุอุปกรณ์ติดตามการบริหารร่างกายอย่าง Fitbit เหมาะกับการต่อว่าดตามกิจกรรมที่คุณทำ และก็ยังเป็นเครื่องไม้เครื่องมือสร้างแรงดลใจสำหรับในการเพิ่มก้าวสำหรับในการเดินของคุณวันแล้ววันเล่า ในขณะที่บ้านรวมทั้งขณะเดินทาง ทดลองใส่ขณะเดินทางแล้วคุณจะรู้สึกได้ว่ามันช่วยทำให้คุณเดินบ่อยครั้งขึ้น

4. ยางยืดบริหารร่างกาย
ยางยืดบริหารร่างกายนอกเหนือจากการที่จะนำพาสบายแล้ว ยังสามารถใช้ออกแรงร่างกายส่วนบนและก็ด้านล่างข้างในพื้นที่จำกัดได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

5. เครื่องมือบริหารร่างกาย P90X
P90X เป็นโปรแกรมบริหารร่างกายที่คุณสามารถทำเป็นเกือบจะทุกๆที่ แถมยังมีชื่อว่าเป็นโปรแกรมสุดชั่วร้ายที่ใช้น้ำหนักร่างกายตนเองบริหารร่างกายเป็นหลัก และก็ยังทำในพื้นที่แคบๆได้อีกด้วย สบายต่อการบริหารร่างกายในสถานที่ไกลบ้านอย่างห้องบังกะโลของคุณ

6. บอลบริหารร่างกาย
ถ้าเกิดคุณมีบอลบริหารร่างกายเป่าลม คุณก็ราวกับมียิมจิ๋วอยู่แค่เพียงเอื้อมมือ ท่าบริหารร่างกายที่คุณสามารถทำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าฝึกหัดกล้ามท้อง พูดได้ว่าแทบไม่มีข้อจำกัด หาวิดีโอสอนวิธีฝึกเล่นพื้นฐานแล้วคุณก็สามารถสืบต่อเองได้

7. วัสดุอุปกรณ์วิดพื้น Perfect Pushup
Perfect Pushup เป็นเครื่องไม้เครื่องมือวิดพื้นที่ช่วยทำให้คุณวิดพื้นได้โดยหมดแรงกดที่ไปที่ข้อมือ ตอนนี้มีขายในขนาดนำเอาโดยเชื่อมด้ามหมุนกับฐานกันลื่น ไม่ยุ่งยากต่อการจัดตั้งระหว่างการเดินทาง

8. รองเท้าวิ่ง
พกรองเท้าวิ่งไปคู่หนึ่ง แล้วคุณจะสามารถออกแรงอย่างง่ายแล้วก็มีคุณภาพได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เพียงแต่คุณสวมรองเท้าออกไปเดิน วิ่งเดินขึ้นบันได หรือเข้ายิมที่โฮเต็ล แล้วก็ให้แน่ว่าคุณได้เหงื่อจากกิจกรรมนั้นๆ

9. ชุดยางยืดบริหารร่างกาย Mini-bands
ชุดยางยืดบริหารร่างกายมีให้เลือกหลายสี แล้วก็ขนาดความต้านทาน เป็นแบรนด์ครั้งใช้ทั่วๆไปในคลินิคกายภาพบำบัดเกือบทุกที่

10. เพลงปลุกแรงผลักดัน
การบริหารร่างกายจะเป็นได้ยังไงถ้าหากขาดเพลงที่ดี จัดแจงเพลย์ลิสต์เพลงให้ดี รวมทั้งคุณจะรู้สึกมีแรงผลักดันที่จะขยับเขยื้อนไม่ว่าคุณจะอยู่ที่แห่งไหน

คาร์ดิโอมากๆกล้ามหายใช่หรือไม่

ผู้คนจำนวนมากมีความเชื่อฝังใจว่า การบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอมากๆจะก่อให้กล้ามลดน้อยลง มนุษย์สายกล้ามบางบุคคลก็เลยหลบหลีกการคาร์ดิโอ เนื่องจากว่ากลัวว่ากล้ามที่อุตส่าห์สร้างมาจะหายไป พวกเรามาไขข้อสงสัยกันเลยดีกว่า ว่าคาร์ดิโอแล้วกล้ามหายจริงไหม และก็ควรจะบริหารร่างกายเช่นไร ให้มีกล้ามงามรวมทั้งได้สุขภาพด้วย

คาร์ดิโอเป็นอย่างไร?

คาร์ดิโอ (Cardio) เป็นรากศัพท์ที่แสดงว่า หัวใจ การบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ ก็เลยเป็นการออกแรงที่เน้นย้ำกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง และก็สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆเจริญขึ้น การบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอแล้วก็นาน แต่ว่าไม่หนักมากมาย ดังเช่นว่า การวิ่ง การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน ฯลฯ

สำหรับในการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ จะใช้พลังงานจาก 2 แหล่งเป็นหลัก ดังเช่นว่า 1) คาร์โบไฮเดรต ซึ่งอยู่ในรูปเดกซ์โทรสในกระแสโลหิตแล้วก็ไกลวัวเจนที่เก็บในกล้ามรวมทั้งตับ แล้วก็ 2) ไขมัน ที่สะสมเอาไว้ในเยื่อไขมันตามส่วนต่างๆยกตัวอย่างเช่น ใต้ผิวหนัง เมื่อพวกเราเริ่มคาร์ดิโอร่างกายจะเริ่มใช้เดกซ์โทรสแล้วก็ไกลวัวเจนมาเป็นพลังงานก่อน แม้กระนั้นถ้าเกิดออกแรงไปสม่ำเสมอเป็นเวลานานมากพอเพียง ในระดับความหนักที่สมควร ร่างกายจะเริ่มสลายไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทน

คุณประโยช์จากการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ อาทิเช่น ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เหมาะกับผู้ที่อยากลดน้ำหนัก มีหุ่นลีนกระชับ รวมทั้งช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง ร่างกายมีความคงทนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่อ่อนแรงหรือไม่มีแรงง่าย

คาร์ดิโอหนักๆกล้ามจะหายจริงไหม? 

คำตอบเป็น อีกทั้งจริงและไม่จริง ขึ้นกับต้นสายปลายเหตุหลายชนิด

มาถึงนี้บางครั้งก็อาจจะงงงันว่า แล้วคาร์ดิโอแบบไหนล่ะ ที่ทำให้กล้ามหาย? … ขอตอบว่าควรจะเป็นการคาร์ดิโอที่หนัก นาน รวมทั้งถี่ แม้กระนั้นได้รับสารอาหารน้อยเกินไป หรือทานน้อยมาก ไม่สมดุลกับพลังงานที่ใช้ไป ดังเช่นว่า ผู้ที่วิ่งตรงเวลา 1-2 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 10-20 กิโลเมตร ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้กระนั้นรับประทานอาหารเพียงแค่ 1,000 Kcal แถมงดเว้นแป้ง งดเว้นไขมันเพราะเหตุว่ากลัวอ้วนอีกต่างหาก วิธีการทำอย่างนี้จะก่อให้พวกเราได้รับคาร์โบไฮเดรตแล้วก็ไขมันไม่พอมาใช้เป็นพลังงาน ยิ่งในสถานการณ์ที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร การเผาไหม้ไขมันก็จะลดน้อยลงอัตโนมัติ ร่างกายก็เลยดึงโปรตีนจากกล้ามมาเป็นพลังงานแทน และก็เป็นต้นเหตุให้กล้ามพวกเรายุบลงนั่นเอง

คาร์ดิโอเช่นไรไม่ให้กล้ามหาย?

อย่างที่ได้บอกไปว่าการคาร์ดิโอนั้นมีผลดี รวมทั้งช่วยทำให้สุขภาพดี โดยเหตุนั้น พวกเราจะต้องบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอเสมอๆด้วย แต่ว่าถ้าเกิดอยากรักษากล้ามงามๆไว้ด้วย ก็มีแนวทางดังต่อไปนี้

รับประทานอาหารให้พอเพียง แล้วก็ได้สารอาหารครบสมบูรณ์
จำนวนของกินที่จำเป็นต้องทานต่อวันก็ขึ้นกับว่าพวกเราใช้พลังงานมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากทำกิจวัตรที่ทำทุกๆวันแล้วก็บริหารร่างกายธรรมดา บางทีอาจรับประทานอาหารให้ได้ 2,000-3,000 Kcal ต่อวัน หรือแบบง่ายๆก็คือทานให้ครบทุกมื้อ และไม่ปลดปล่อยให้รู้สึกหิวนั่นเอง รูปทรงพลังงานจากของกินก็ต้องเป็น คาร์โบไฮเดรต 50% โปรตีน 25% รวมทั้งไขมัน 25% หรือบางทีอาจเปลี่ยนแปลงตามสมควร

คาร์ดิโอให้พอดิบพอดี


ตามข้อกำหนดของ American College of Sports Medicine (ACSM) กล่าวว่าพวกเราควรจะบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอให้ได้ 150 นาทีต่ออาทิตย์ซึ่งจะเฉลี่ยได้เป็น 4-5 วันต่ออาทิตย์ วันละโดยประมาณ 30 นาที แม้อยากได้คาร์ดิโอมากกว่านี้ ก็จะต้องรับประทานอาหารให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยตามรูปทรง

ทานเครื่องดื่มหรืออาหารเสริมเป็นตัวช่วย


สำหรับคนไหนกันแน่ที่กลัวว่าจะได้รับพลังงานน้อยเกินไป พวกเราสามารถทานเครื่องดื่มหรืออาหารเสริมช่วยได้ ตัวอย่างเช่น ระหว่างบริหารร่างกายบางทีอาจจิบเครื่องดื่มเกลือแร่ชูกำลัง หรือก่อนบริหารร่างกายบางทีอาจรับประทานอาหารเบาๆที่มีน้ำตาลปานกลาง เพื่อเพิ่มเดกซ์โทรสให้ร่างกายใช้ประโยชน์เป็นพลังงานระหว่างออกแรงได้ แล้วก็ข้างหลังบริหารร่างกายบางทีอาจทานโปรตีนเสริมในลักษณะต่างๆเพื่อคุ้มครองการสูญเสียโปรตีนแล้วก็ช่วยสร้างเสริมกล้าม